การจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) คืออะไร
การจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการทั้งสินทรัพย์ที่มีตัวตน (Tangible Assets) เช่น อาคาร เครื่องจักร และอุปกรณ์ และสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน (Intangible Assets) เช่น สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า และทรัพย์สินทางปัญญา
“ถ้าบริษัทคือบ้าน สินทรัพย์ก็เหมือนเฟอร์นิเจอร์และของมีค่าต่างๆ การจัดการสินทรัพย์ก็เหมือนการดูแลบ้านให้น่าอยู่และมีมูลค่ามากขึ้น”
ประเด็นสำคัญ
- การจัดการสินทรัพย์มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่า ลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอื่นๆ
- ผู้ให้บริการจัดการสินทรัพย์มีหลากหลาย เช่น บริษัทจัดการสินทรัพย์ ผู้จัดการกองทุนรวม ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ
- ผู้จัดการสินทรัพย์มีความรับผิดชอบในการตัดสินใจลงทุน จัดสรรสินทรัพย์ และบริหารความเสี่ยง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการสินทรัพย์
สินทรัพย์ คือ สิ่งที่มีค่าและสามารถสร้างผลตอบแทนให้เจ้าของได้ เช่น
- สินทรัพย์ทางการเงิน
เช่น หุ้น, พันธบัตร, กองทุนรวม, อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน - สินทรัพย์อื่นๆ
เช่น ที่ดิน, บ้าน, รถยนต์, ทองคำ, งานศิลปะ
การจัดการสินทรัพย์ คือ การที่ผู้เชี่ยวชาญ (ผู้จัดการสินทรัพย์) ช่วยบริหารจัดการเงินลงทุนให้เรา มี 4 ขั้นตอน
- วางแผน
ผู้จัดการสินทรัพย์ –> กำหนดเป้าหมายการลงทุน, เลือกระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม, และกำหนดระยะเวลาการลงทุน - เลือกสินทรัพย์
ผู้จัดการสินทรัพย์ –> คัดกรองเลือกสินทรัพย์ ที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสมกับแผนการลงทุนของคุณ เช่น หุ้น, พันธบัตร, กองทุนรวม, ทองคำ, อสังหา และอื่น ๆ - บริหารจัดการ
ผู้จัดการสินทรัพย์ –> ติดตามผลการลงทุน และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เมื่อมีอุปสรรคหรือมีเส้นทางที่ดีกว่า - รายงานผล
ผู้จัดการสินทรัพย์ –> รายงานให้คุณทราบเป็นระยะว่าการลงทุน เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณมั่นใจและสบายใจ
การจัดการสินทรัพย์ กับ การจัดการความมั่งคั่ง ต่างกันอย่างไร?
“การจัดการสินทรัพย์ = บริษัทจ้างผู้เชี่ยวชาญมาบริหารเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้เงินงอกเงย”
- ลูกค้า: องค์กรใหญ่ๆที่มีเงินทุนจำนวนมาก เช่น สถาบัน กองทุน หรือบริษัทขนาดใหญ่
- สินทรัพย์: เน้นลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม
- เป้าหมาย: เพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนให้ได้มากที่สุด
- รูปแบบการบริการ: มักเป็นการบริหารพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน
“การจัดการความมั่งคั่ง = ครอบครัวจ้างที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว มาช่วยวางแผนการเงินให้ครอบคลุมทุกด้าน”
- ลูกค้า: บุคคล หรือ ครอบครัว ที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals)
- สินทรัพย์: ดูแลสินทรัพย์ทุกประเภท ทั้งการวางแผนการเงินส่วนบุคคล การลงทุน อสังหาริมทรัพย์ การวางแผนภาษี การวางแผนเกษียณ การวางแผนส่งต่อมรดก หรือแม้แต่ธุรกิจส่วนตัว
- เป้าหมาย: วางแผนการเงินรอบด้าน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายชีวิต เช่น มีเงินใช้หลังเกษียณ ส่งลูกเรียน สร้างมรดก หรือการจัดการหนี้สิน
- รูปแบบการบริการ: ให้คำปรึกษาส่วนตัวและบริการที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
ประเภทของผู้จัดการสินทรัพย์
ผู้จัดการสินทรัพย์มีหลายประเภท แบ่งตามความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์แต่ละชนิด และระดับการให้บริการ ลองมาดูกันว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ที่ปรึกษาการลงทุน (Registered Investment Adviser) = หมอประจำตัวที่ดูแลสุขภาพการเงินของคุณ
- หน้าที่: ให้คำแนะนำการลงทุนและบริหารพอร์ตให้คุณอย่างใกล้ชิด
- ข้อดี: มีความเชี่ยวชาญสูง ปรับแผนการลงทุนให้เหมาะกับคุณได้
- ข้อเสีย: ค่าธรรมเนียมสูงกว่าแบบอื่น เหมาะกับผู้ที่มีเงินลงทุนจำนวนมาก
นายหน้า (Broker) = พนักงานขายในห้าง ที่ช่วยหยิบสินค้า (หลักทรัพย์) ที่คุณต้องการ
- หน้าที่: เป็นตัวกลางในการซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่ได้ให้คำแนะนำการลงทุนโดยตรง
- ข้อดี: ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า RIA เหมาะกับผู้ที่รู้จักการลงทุนอยู่แล้ว
- ข้อเสีย: ต้องตัดสินใจลงทุนเอง อาจเสี่ยงกว่าหากไม่มีความรู้
โรโบ-Advisor (Robo-Advisor) = เครื่องขายของอัตโนมัติ ที่มีเมนูให้เลือก (แผนการลงทุน) ตามความต้องการ
- หน้าที่: ใช้ระบบคอมพิวเตอร์บริหารพอร์ตให้คุณแบบอัตโนมัติ
- ข้อดี: ค่าธรรมเนียมถูกที่สุด ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นลงทุน
- ข้อเสีย: ไม่สามารถให้คำแนะนำส่วนตัวได้ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีความต้องการซับซ้อน
ต้นทุนของการจัดการสินทรัพย์
- ค่าธรรมเนียมหลัก
คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนที่เราฝากเขาบริหาร ยิ่งลงทุนเยอะ ค่าธรรมเนียมยิ่งถูก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1% ต่อปี เช่น ถ้าลงทุน 1 ล้านบาท ก็มีค่าคอมมิชชั่นประมาณ 1 หมื่นบาทต่อปี - ค่าธรรมเนียมซื้อขาย: บางครั้งอาจมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสินทรัพย์แต่ละครั้ง คล้ายๆ กับค่าคอมมิชชั่นที่คิดค่าบริการเพิ่มทุกครั้งที่ซื้อขายหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ให้
ข้อควรระวัง
บางทีผู้จัดการสินทรัพย์อาจจะแอบ “กินส่วนต่าง” จากค่าคอมมิชชั่นได้นะ คือซื้อขายบ่อยๆ เพื่อให้ตัวเองได้ค่าคอมเยอะๆ ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ดังนั้นต้องเลือกผู้จัดการสินทรัพย์ที่ไว้ใจได้ คิดถึงผลประโยชน์ของเรา และอย่าลืมคอยเช็คผลงานอยู่เสมอ
คนเขียนสรุปให้
ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเงินลงทุนมหาศาล หรือเป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่ต้องการเก็บออมเพื่ออนาคต การจัดการสินทรัพย์คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความมั่งคั่งที่ยั่งยืนได้
ลองนึกภาพว่าเงินลงทุนของคุณคือเมล็ดพันธุ์แห่งความมั่งคั่ง การจัดการสินทรัพย์ก็คือการดูแลเอาใจใส่ รดน้ำ พรวนดิน ให้เมล็ดพันธุ์นั้นเติบโตงอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง!!
การจัดการสินทรัพย์ คือ การดูแลและบริหารทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินขององค์กร เช่น เงินทุน อาคาร หรือทรัพย์สินทางปัญญา หรือทรัพย์สินส่วนบุคคล เช่น เงินออม การจัดการสินทรัพย์ที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างผลกำไร และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายทางการเงิน